โดยทั่วไป นักเรียนที่มีความประหวั่นพรั่นพรึงต่อวิชาคณิตศาสตร์ เมื่ออายุได้ประมาณ ๑๒ ปี ก็มักจะเลี่ยงลงคอร์สวิชาไปเลย และหากต้องเรียนเพราะเลี่ยงไม่ได้ ก็จะได้คะแนนตำ่มาก นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าเด็กเหล่านั้น มีความสามารถทางคณิตศาสตร์น้อยมาแต่แรก จึงทำให้คิดอะไรเป็นตัวเลขได้ลำบาก จากผลงานวิจัยที่ลงตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Experimental Psychology: General โดย Mark H. Ashcraft และ Eliazbeth P Kirk แห่ง Cleveland(Ohio) State University ได้ผลขัดแย้งกับทฤษฎีข้างต้น ว่าความวิตกกังวล ตลอดจนความประหวั่นพรั่นพรึงต่อวิชาต่างหาก ที่ไปรบกวนสมาธิและการทำงานของสมองที่จะช่วยให้เข้าใจวิชาคณิตศาสตร์ได้ ความวิตกจริตคณิตศาสตร์(Math Anxiety) นี้ ไปทำให้สมองไม่อาจยึดกุมข้อมูลใหม่ๆ ในขณะที่สมองอีกส่วนกำลังคิดคำนวณข้อมูลเหล่านั้น ซึ่งนักจิตวิทยาเรียกพลังการกุมข้อมูลขณะคิดคำนวณนี้ว่าworking memory ที่มีความสำคัญอย่างวิกฤตเวลาเราคิดเกี่ยวกับตัวเลข "Math Anxiety หรือความวิตกกังวลตัวนี้ ไปดูดแย่งเอาเนื้อที่ในสมองส่วนที่ใช่ยึดกุมข้อมูลจากโจทย์ จึงทำให้เรียนคณิตศาสตร์ได้ยากขึ้น ประมาณว่าเริ่มเกิดขึ้นราวๆระดับ middle school (เกรด ๖ - ๙)" แอชครอฟท์กล่าว
แอชครอฟท์ และ เคิร์ก ทำการทดลองสามชุด แต่ละชุดกับนักศึกษาระดับปริญญาตรี ๕๐-๖๐ คน โดยคละกันไปเท่าๆกันทุกกลุ่ม ระหว่างจำนวน หญิง-ชาย ระดับสูง-กลาง-ต่ำที่มีความวิตกกังวลต่อวิชาคณิตศาสตร์ ที่สอบถามมาก่อน ในการทดลองชุดแรก แอชครอฟท์ และ เคิร์ก พบว่า นักเรียนที่มีความวิตกกังวลสูง จะลงวิชาคณิตศาสตร์น้อย ได้รับเกรดต่ำในวิชา และในแบบทดสอบที่สำรวจ working memory ก็ได้คะแนนต่ำ ในการทดลองชุดที่สอง เพื่อหาผลในทางลบของความวิตกจริต ที่มีต่อ working memory นั้น เขาให้ นักศึกษาดูตัวอักษรชุดหนึ่ง แล้วให้บวกเลขในใจอีกชุดหนึ่งโดยจับเวลาไปด้วย เมื่อบวกเลขเสร็จแล้ว ก็ให้ทบทวนชุดตัวอักษรที่ให้จำไว้ก่อนหน้านั้น คนที่มีความวิตกจริตสูง ได้คะแนนต่ำทั้งเรื่องบวกเลข และเรื่องจำตัวอักษร แต่ที่แย่ที่สุดก็เรื่องบวกเลข ที่ขนาดบวกเลขอย่าง 47 + 18 ก็ยังทำผิดเลย แต่เมื่ออนุญาตให้ใช้ดินสอและกระดาษมาคิดไปด้วย ก็ทำได้ถูกต้องได้คะแนนดีเหมือนกลุ่มอื่น แสดงว่า ความสามารถทางคณิตศาสตร์ไม่ได้บกพร่องเหมือนอย่างที่เชื่อกันทั่วไป การทดลองชุดที่สามพบว่า ความวิตกจริตทางคณิตศาสตร์ ก็ยังทำให้การคำนวณที่ไม่ใช่การเรียนเลขในห้องเรียน ด้อยลงไปมากด้วย หากการคำนวณนั้น ต้องอาศัยความจำขณะทำการคิดมายึดกุมข้อมูล เช่น เขาจะให้นักศึกษา ดูเลข ๔ ตัวชั่วครู่หนึ่ง แล้วไม่ให้เห็นอีก แล้วให้บวกจำนวน ๗ เข้ากับเลขทั้ง ๔ นั้น หมายความว่า นักศึกษาต้องจำเลขทั้ง ๔ ตัวนั้นให้ได้ เมื่อจำไม่ได้ ก็บวกออกมาผิด แม้การบวก ๗ เท่านั้นไม่ใช่เรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรงอะไร ผลงานวิจัยรุ่นก่อนหน้านี้ ก็ยังพบด้วยว่า ความวิตกจริตทางคณิตศาสตร์ ก็ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น และทำให้เกิดลักษณะทางกายภาพอีกหลายอย่าง ที่เป็นตัวบ่งขี้ถึงความวิตกกังวล David C. Geary นักจิตวิทยาแห่ง University of Missouri in Columbia เสริมว่า การรักษาทางจิตวิทยา ที่ช่วยลดความวิตกจริตคณิตศาสตร์ ได้ผลช่วยให้นักศึกษาได้คะแนนสูงขึ้นมาแล้วด้วย "ผลงานวิจัยของ แอชครอฟท์ และ เคิร์ก เป็นหลักฐานแน่นหนาที่พิสูจน์เป็นครั้งแรกว่า คนที่มีความวิตกกังวลและประหวั่นกลัวคณิตศาสตร์ จะมีผลต่อความสามารถในการยึดกุมจ้อมูลของสมอง ที่ทำให้เรียนคณิตฯได้ไม่ดีไปด้วย" ดร เกียรี่กล่าว
จาก Bower, B, "Math fears subtract from memory, learning", Science News Vol. 159 No. 26, Jun 30, 2001, p. 405
My friends
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น